AAPP กลุ่มเฝ้าสังเกตการในประเทศเมียนมาได้รายงานว่า ผู้ชุมนุมเมียนมา ที่ออกมาขับไล่เผด็จการ ตาย เพิ่มอีกอย่างน้อย 20 ศพ รัฐประหารเมียนมา – เมื่อวันที่ 16 มีนาคม สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย อ้างอิงข้อมูลจาก สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง หรือ AAPP ที่เปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมในประเทศเมียนมา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อย่างน้อย 20 ศพ หลังจากที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเปิดฉากยิงใส่ผู้ชุมนุม
โดย AAPP กล่าวว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากใจกลางนครย่างกุ้ง
ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ชุมนุมต่อต้านเผด็จการ อย่างไรก็ตามในกลุ่มผู้เสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีประชาชนที่ไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุมรวมอยู่ด้วย ซึ่งสำนักข่าว AFP รายงานว่าผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสองคนที่ถูกลูกหลง หลังจากที่กองทัพยิงโดนบ้านพักของผู้ตาย
นอกจากนี้ในแถลงการยังได้ระบุอีกว่า ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงต่อเนื่อง และในขณะนี้มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตจากการประท้วงนับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ หรือราวๆ 6 สัปดาห์ แล้วมากกว่า 180 ศพ
สถานการณ์ชุมนุมประท้วงในประเทศเมียนมา ยังคงร้อนระอุอย่างต่อเนื่องและลากยาวไปสัปดาห์ที่ 6 หลังจากที่ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ได้ยึดอำนาจ พร้อมจับกุมนาง อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ในข้อหาโกงการเลือกตั้งเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ซึ่งพล.อ. มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมารับปาก จะจัดการเลือกตั้งทันทีหลังยึดอำนาจ 1 ปีตามที่ประกาศเอาไว้
โดยองค์การอนามัยโลกจะเข้าหารือถึงวัคซีนแอสตราเซเนกาในวันอังคาร เช่นเดียวกันกับ องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ที่จะเข้าหารือถึงประเด็นดังกล่าวในวันเดียวกัน และคาดว่าน่าจะได้ผลสรุปถึงความปลอดภัยของวัคซีนชนิดนี้ในวันพฤหัสบดีนี้
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการยาสหภาพยุโรป (EU) ได้ออกมาโต้ว่า ไมพบว่าวัคซีนแอสตราเซเนกา วัคซีนต้านโควิด-19 มีความเกี่ยวข้องกับภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หลังจากที่มีหลายประเทศในแถบยุโรป เช่นเดนมาร์ก, นอร์เวย์, ไอซ์แลนด์ ระงับการฉีดวัคซีนชั่วคราว
เช่นเดียวกันกับทางบริษัทผู้ผลิตแอสตราเซเนกา ไม่พบหลักฐานว่าวัคซีนมีส่วนกระตุ้นให้เพิ่มความเสี่ยงเกิดอาการลิ่มเลือดอุดตัน ขณะนี้มีการตรวจพบผู้ที่แสดงอาการลิ่มเลือดอุดตันแล้วไม่เกิน 40 ราย จากผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนกว่า 17 ล้านโดสทั่วสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป
เกาหลีเหนือ ขู่ สหรัฐฯ ‘อย่าหาทำ’ ถ้าอยากได้ความสงบสุข
ทางการ เกาหลีเหนือ ประกาศขู่รัฐบาลของนาย โจ ไบเดน ผู้นำ สหรัฐฯ “อย่าสร้างปัญหา ถ้าอยากนอนหลับสบายๆ” ในช่วงที่ ไบเดน ดำรงตำแหน่ง เมื่อวันที่ 16 มีนาคม สำนักข่าว อัลจาซีรา รายงานว่า คิม โย จอง น้องสาวของนาย คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้ออกประณามทางการสหรัฐฯ ที่ได้เริ่มซ้อมรบกับทางเกาหลีใต้เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการฝึกซ้อมครั้งนี้ต่างออกไปจากครั้งก่อนๆ เนื่องจากเป็นซ้อมผ่านคอมพิวเตอร์ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
โดยน้องสาวของผู้นำคิมได้ประกาศข่มขู่รัฐบาลนาย โจ ไบเดน ว่า ถ้าหากทางการสหรัฐฯอยากจะนอนหลับสบายๆในอีก 4 ปีถัดจากนี้ ก็ขอให้อย่าสร้างปัญหาให้กับเกาหลีเหนือ
ซึ่งการข่มขู่ครั้งนี้เกิดขึ้น ก่อนที่นาย แอนโธนี บลินเกน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ และ นาย ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม มีกำหนดเดินทางไปยังกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ ซึ่งคาดว่าทั้งสองน่าจะหารือเรื่องนโยบายต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง
นอกจากนี้ความเห็นดังกล่าวถือเป็นความเห็นแรกที่ทางการเกาหลีเหนือกล่าวถึงรัฐบาลของนาย โจ ไบเดน โดยตรง นับตั้งแต่ที่ผู้นำสหรัฐฯสาบานเข้ารับตำแหน่งในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ทางการเกาหลีเหนือได้จัดขบวนพาเหรดอาวุธยุทโธปกรณ์ ในกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าการจัดแสดงครั้งนี้เป็นการข่มขู่สหรัฐฯเนื่องจากการจัดแสดงเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนพิธีเข้ารับสาบานตนของนาย โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
นอกจากนี้ผู้นำเกาหลีเหนือยังได้ระบุในการประชุมทางการเมืองอีกด้วยว่า ประเทศสหรัฐอเมริกา คือศัตรูหมายเลข 1 ของพวกเขา และไม่ว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีก็ตาม นโยบายของสหรัฐฯต่อเกาหลีเหนือจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
มหาลัยปากีสถาน ทำการไล่ น.ศ. 2 รายออกจากสถานศึกษา ภายหลังจากที่มีการแพร่กระจายของวิดีโอขอแต่งงานในสถานที่ดังกล่าวของทั้ง 2 คนกันอย่างกว้างขวาง
มหาลัยปากีสถาน / น.ศ. – มหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศปากีสถาน ได้ทำการไล่นักศึกษา 2 รายออกจากสถานศึกษา ภายหลังจากที่ภายหลังจากที่มีการแพร่กระจายของวิดีโอขอแต่งงานในสถานที่ดังกล่าวของทั้ง 2 คนกันอย่างกว้างขวาง โดยในวิดีโอดังกล่าวได้แสดงภาพการขอแต่งงานปกติ ซึ่งเป็นตัวผู้หญิงที่ทำการขอผู้ชาย และมอบดอกไม้ให้ผู้ชาย
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น